Author: Raymond Howard

Home / Author: Raymond Howard

Tote Bag

ถ้าพูดถึงเรื่องกระเป๋าแล้ว สาวๆ 1 คนคงจะมีกระเป๋ามากกว่า 1 ใบอย่างแน่นอน เพราะการใช้งานที่แตกต่างกันจึงทำให้เราต้องมีหลายใบ เพื่อใช้งานในโอกาสต่างๆ ซึ่ง กระเป๋า Tote Bag เป็นอีกหนึ่งกระเป๋าที่ได้รับความนิยมอย่างมากไม่ว่าจะยุคสมัยไหน เพราะเป็นกระเป๋าที่ใช้งานง่าย จุของได้เยอะ จะถือไปเที่ยว ไปทำงาน ก็ได้ทั้งหมด ดังนั้นวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า กระเป๋า Tote Bag ใบไหนน่าใช้ในปีนี้ ง

Longchamp Le Pliage Original 

เมื่อเอ่ยถึงกระเป๋า Tote Bag จะพลาดแบรนด์ Longchamp ไปได้ไง เป็นกระเป๋าที่มาในรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ผลิตจากผ้าใบโพลีอะมายด์รีไซเคิลเคลือบภายใน ทำให้มีน้ำหนักเบา โดยชั้นนอกจะมีตัวล็อกแบบฝาปิดและชั้นในสุดจะเป็นซิปรูด ซึ่งความพิเศษของกระเป๋ารุ่นนี้คือสามารถพับได้ ภายในมีพื้นที่กว้างสามารถจุได้แม้กระทั่งแท็บเลต เหมาะสำหรับสะพายไปเรียน ไปทำงาน หรือไปช็อปปิ้งในวันหยุดพักผ่อน

Marc Jacobs The Tote

ใครที่ชอบความลุยๆ สตรีทๆ ต้องใบนี้เลย ตัวกระเป๋าทำมาจากผ้าแคนวาส ผ้ามีความหนา แข็งแรงทนทาน ตัวกระเป๋าพิมพ์ลาย The Tote Bag อันเป็นชื่อรุ่นของแบรนด์นั่นเอง มีตั้งแต่สีดำ สียีนส์ สีเบจ จนไปถึงสีพาสเทลน่ารัก  ๆเลย ดีไซน์เรียบ ๆ มินิมอล เป็นใบที่สามารถใช้ได้ทั้งชายและหญิง สะพายไปทำงานไปเรียนได้หมดเลย

GUESS LE792925 LINDENBERG TOTE

มาพร้อมให้คุณเลือก 3 สี ได้แก่ สีเขียว สีฟ้า และสีขาว ซึ่งล้วนแต่โดดเด่นด้วยการสลักตัวอักษร Guess ที่กลางกระเป๋าช่วยเพิ่มความเรียบหรูได้ดี ที่สำคัญ หูกระเป๋ามีลักษณะแบน ทำให้คุณสามารถสะพายไหล่ได้ง่าย ส่วนคุณสมบัติการใช้งานประกอบด้วยช่องหลัก 2 ช่องและช่องซิป 1 ช่อง เพิ่มความสะดวกและช่วยให้สิ่งของเป็นระเบียบในการหยิบใช้งานง่ายยิ่งขึ้น

Tory Burch Gemini Link Tote

สาวๆ work women ต้องใบนี้เลย เพราะกระเป๋า tote bag รุ่นนี้ตอบโจทย์สาวออฟฟิศอย่างแน่นอน โดยตัวกระเป๋าผลิตจากวัสดุแคนวาสกันน้ำที่มีน้ำหนักเบา โดดเด่นด้วยลายพิมพ์ T-Logo ที่ดัดแปลงมาจากโลโก้ของแบรนด์ เรียงต่อกันเป็นรูปโซ่ ภายในกว้าง มีพื้นที่สามารถจุของได้จำนวนมาก ในส่วนของสายกระเป๋าสามารถปรับระดับ ถอดออก หรือจะสะพายข้างก็ได้เช่นเดียวกัน

เป็นอย่างไรกันบ้างกับกระเป๋า Tote Bag ที่ได้แนะนำกันในวันนี้ ข้อดีของการใช้กระเป๋า tote bag ก็คือการใช้งานที่ง่าย สามารถใช้ได้ในทุกโอกาส แถมด้วยความจุที่สามาถใส่ของไปได้เยอะ โดยฑาะคนที่ต้องทำงานหรือเรียน สามารถพกไอแพด/แท็บเล็ต หรอโนีตบุ๊คไปด้วยได้ ใครชื่นชอบใบไหน หรืออยากดูมากกว่านี้ก็สามารถเข้าไปเสิร์ชหาใน LAZADA รับรองว่าจะได้กระเป๋า Tote Bag ที่ถูกใจแน่นอน 

ประกันรถยนต์ชั้น 1

ถ้าคุณกำลังมองหาความคุ้มครองในชีวิตและทรัพย์สินสำหรับ การขับขี่บนท้องถนนประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะมีรูปแบบประกันรถยนต์หลากหลายประเภทที่ให้ความคุ้มครองแต่ประกันรถยนต์ชั้น 1 กับเป็นรูปแบบประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองมากที่สุด ดังนั้นคุณจะไม่ผิดหวังแน่เมื่อเลือกซื้อความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ชั้น 1 นี้ แต่ถ้าคุณยังไม่มั่นใจหรือยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อรูปแบบประกันรถยนต์ชั้น 1 ดีหรือไม่วันนี้ลองเข้ามาทำความรู้จักหรือเข้ามาดูกันว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองอย่างไรบ้างจากประกันรถยนต์ประเภทนี้ช่วยให้ผู้เอาประกันได้รับประโยชน์เมื่อซื้อเบี้ยประกันรถยนต์แล้วอย่างไรบ้าง

ความน่าสนใจของการเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1

เมื่อพูดถึงประกันรถยนต์ชั้น 1 แน่นอนว่าเป็นรูปแบบประกันรถยนต์ที่ดีที่สุดในปัจจุบันนี้เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีราคาแพงหรือรถยนต์ที่เพิ่งออกใหม่มีอายุการใช้งานน้อยรูปแบบประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุมมากที่สุดดังนั้นจึงมีคนให้ความสนใจและเลือกซื้อความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ชั้น 1 กันเป็นจำนวนมากและหากคุณเป็นคนที่กำลังมองหาความคุ้มครองจากประกันรถยนต์แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าอยากซื้อรูปแบบประกันรถยนต์ไหนแน่นอนว่าคุณสามารถทักเข้ามาทำความรู้จักและเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อเพิ่มความคุ้มครองในชีวิตและทรัพย์สินของตัวคุณเองได้ต้องบอกว่าปัจจุบันนี้มีหลากหลายรูปแบบประกัน 1 เดือนให้คุณได้เลือกซึ่งพอคุ้มครองของประกันรถยนต์แต่ละประเภทก็แตกต่างกันออกไปแต่ถ้าคุณอยากได้ความคุ้มครองที่ดีที่สุดประกันรถยนต์ชั้น 1 ถึงว่าเป็นรูปแบบประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุดแล้ว

แต่อย่างไรก็ดีถ้าคุณอยากได้คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการเลือกซื้อประกันรถยนต์สามารถเข้ามาใช้บริการที่เว็บรู้ใจเรามีทีมงานที่จะคอยให้คำแนะนำสำหรับการเลือกซื้อประกันรถยนต์สำหรับผู้ที่สนใจทุกท่านเพื่อให้คุณได้เลือกซื้อประกันได้ในราคาที่ถูกที่สุดแถมได้ความคุ้มครองที่คุณต้องการอีกด้วยการเลือกซื้อประกันรถยนต์กับเว็บรู้ใจเรานี้จะช่วยทำให้คุณได้รับความคุ้มครองได้ภายใน 3 นาทีในรูปแบบความคุ้มครองที่คุณพึงพอใจด้วยคุณสามารถเลือกได้เองเลยว่าคุณจะเอาความคุ้มครองแบบไหนด้วยสิทธิพิเศษดีๆเหล่านี้คุณหาได้แค่เพียงเว็บรู้ใจเราเท่านั้น

เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจสามารถเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและเลือกซื้อรูปแบบประกันภัยรถยนต์ที่คุณต้องการได้เราพร้อมให้บริการและพร้อมให้ความช่วยเหลือในทุกๆขั้นตอนการเลือกซื้อประกันรถยนต์โดยเฉพาะรูปแบบประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่จะทำให้คุณได้รับความคุ้มครองได้ในราคาที่ถูกที่สุดเพราะบริการเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันที่เรามีจะทำให้คุณพึงพอใจสำหรับการจ่ายค่าเบี้ยประกัน

Farmfactory Delivery

ในยุคนี้ไม่ว่าใครต่างก็หันมาดูแลสุขภาพด้วยกันทั้งนั้น นั่นทำให้ไม่น่าแปลกใจนักเมื่อเห็นร้านอาหารมากมายต่างครีเอทเมนูเพื่อเอาใจสายสุขภาพโดยเฉพาะ และสำหรับใครที่รู้ตัวว่าเป็นสายรักสุขภาพ วันนี้เรามีร้านสลัดเพื่อสุขภาพอย่าง Farmfactory มาบอกต่อ โดยปัจจุบันทางร้านได้มีบริการ Farmfactory Delivery ที่แม้ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงานก็สามารถออเดอร์เมนูดี ๆ ได้ รับรองว่าต้องถูกใจคนรักสุขภาพหรือผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างอย่างแน่นอน

สำหรับร้าน Farmfactory เป็นร้านสลัดคุณภาพที่ท่านเจ้าของร้านต้องการแก้โจทย์ที่หลายคนมักคิดว่าอาหารสุขภาพมักมาพร้อมรสชาติที่ไม่อร่อย จึงได้ครีเอทเมนูสลัดออกมาอย่างหลากหลาย ออกแบบรสชาติให้ถูกปากคนไทย จนกลายเป็นที่นิยมอย่างเช่นปัจจุบัน สำหรับจุดเด่นของร้านคือการนำเสนอเมนูเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ จึงทำให้กลายเป็นร้านที่ครองใจคนรักสุขภาพไปอย่างง่ายดาย อีกทั้งทุกเมนูยังคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพ ผักที่เลือกใช้คือผักที่ได้จากฟาร์มมาตรฐาน รวมถึงเลือกใช้ผักจากโครงการหลวง ซึ่งรับรองว่าสดใหม่และปลอดสารพิษ

ด้านเมนูแนะนำจาก Farmfactory Delivery แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นเมนูสลัด เนื่องจากเป็นเมนูหลักของร้าน โดยเมนูสลัดมีให้เลือกมากมาย เสิร์ฟด้วยผักสดคุณภาพเยี่ยม มาพร้อมเครื่องเคียงอื่น ๆ ที่รับประทานด้วยกันแล้วเข้ากันแบบสุด ๆ ที่สำคัญยังมีน้ำสลัดให้เลือกกว่า 10 รสชาติ รับประกันว่าต้องโดนใจคอสลัดอย่างแน่นอน สำหรับเมนูสลัดที่แนะนำต้องยกให้กับ Harvest Cobb ที่ได้รวบรวมผักหลากสีสันเอาไว้ในถ้วยเดียว ไม่ว่าจะเป็น กะหล่ำม่วง มะเขือเทศราชินี ข้าวโพด ฟักทองย่าง และไม่ลืมเติมโปรตีนแก่ร่างกายด้วยเนื้อไก่หมักสูตรเฉพาะของทางร้านและไข่ต้ม ที่เมื่อรับประทานด้วยกันนอกจากจะมอบรสชาติเยี่ยมแล้ว ยังจัดเต็มสารอาหารดี ๆ แก่ร่างกายอีกด้วย

นอกจากเมนูสลัดแล้ว อีกหนึ่งประเภทเมนูที่ห้ามพลาด ได้แก่ เมนูเครื่องดื่มสกัดเย็น โดยทางร้านได้ออกแบบเครื่องดื่มผลไม้สกัดเย็น 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนอกจากดีต่อสุขภาพกายแล้วยังดีต่อสุขภาพใจ เนื่องจากช่วยเติมความสดชื่นยามเช้าและยามบ่ายได้เป็นอย่างดี โดยผลไม้ที่นำมาสกัดเย็นมีอยู่หลายชนิด เช่น แอปเปิล สับปะรด แคร์รอต ขิง ฯลฯ รังสรรค์เป็นเมนูฟิน ๆ อย่าง Forever Young, Deep Detox, Super Slim และอีกมากมาย บอกได้คำเดียวว่าไม่ควรพลาดชิมให้ครบทุกรสชาติ

ไม่เพียงเท่านั้น เพราะทางร้านยังมีเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง Caesar Dips เพื่อเอาไว้ทานเล่น ๆ และเมนู Burrito ที่นำสลัดรสชาติต่าง ๆ มาห่อด้วยแป้งเหนียวนุ่มอีกชั้น เพื่อเพิ่มความฟินแบบเต็มคำ โดยเมื่อรสชาติกลมกล่อมของสลัดหลอมรวมกับความเหนียวนุ่มของแป้งยิ่งช่างลงตัว จนกลายเป็นอีกหนึ่งเมนูห้ามพลาดสำหรับทุกคน

เมื่อ Farmfactory เป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่อัดแน่นด้วยหลากหลายเมนูแบบนี้ ใครที่รู้ตัวว่าเป็นสายรักสุขภาพอย่าลืมใช้บริการ Farmfactory Delivery เพียงเลือกเมนูความอร่อยและปักหมุดสถานที่จัดส่ง เพียงไม่นานก็รอรับความอร่อยแบบถึงที่กันได้เลย

Reading

การอ่านเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกวัย ทุกอาชีพ ไม่ว่าเราจะอายุมากหรือน้อย การอ่านก็ล้วนแต่มีความสำคัญทั้งสิ้น ในการศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง คนที่อ่านหนังสืออยู่เป็นประจำ มักจะได้เปรียบคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ และไม่ว่าจะเป็นทางด้านการพูด การคิด หรือว่าการกระทำ คนที่อ่านหนังสือมักจะมีอะไรที่แตกต่างมากกว่าอยู่เสมอ และคนที่อ่านหนังสือเยอะมากกว่า ก็มักจะมีโอกาสที่จะสำเร็จในชีวิตมากกว่าด้วย

สำหรับบางคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ เพราะเห็นว่ามันไม่สนุก ไม่เหมือนกับการเล่นโทรศัพท์ หรือว่าเล่นอินเตอร์เน็ต ไม่มีแรงบันดาลใจในการอ่าน บางทีสาเหตุมันก็อาจจะมาจากเราอ่านผิดวิธีก็ได้ ซึ่งการอ่านที่ผิดแบบ หรืออ่านแบบไม่มีประสิทธิภาพ มันก็เป็นการอ่านที่เปล่าประโยชน์เหมือนกัน เราลองมาดูว่า เราจะอ่านหนังสืออย่างไร ให้มันได้ประโยชน์สูงสุด และวิธีการอ่านแบบไหนที่เราควรจะปรับเปลี่ยน เพราะมันไม่ได้ผล และทำให้น่าเบื่อเร็วด้วย

การอ่านโดยชี้นิ้วไปด้วย

บางคนมักจะติดนิสัยในการอ่าน แล้วใช้นิ้วชี้ไปตาม วิธีการนี้ทำให้อ่านได้ช้า และไม่มีประสิทธิภาพ เพราะมันน่าเบื่อ คนที่อ่านหนังสือเร็วๆ จึงมักจะอ่านแบบใช้สายตาอย่าเดียว เพราะมันได้ผลมากกว่า ไม่เหนื่อยด้วย

การอ่านแบบออกเสียง

คนที่ต้องการอยากจะอ่านหนังสือให้ได้มากๆ อ่านให้ได้นานๆ วิธีการอ่านที่ดีก็คือ อย่าอ่านออกเสียง เพราะการอ่านออกเสียงนอกจากจะทำให้เราอ่านได้น้อย น่าเบื่อแล้ว มันยังทำให้เราเหนื่อยอีกด้วย คนที่อ่านหนังสือได้ครั้งละนานๆ โดยที่ไม่เหนื่อย หรือว่าไม่เบื่อ เขาจะไม่อ่านหนังสือแบบออกเสียงเลย เพราะมันทำให้อ่านช้าด้วย และบางครั้งก็อาจจะรบกวนคนอื่นด้วย คนที่มักจะอ่านหนังสือแบบออกเสียงอยู่ ก็ลองเปลี่ยนรวิธีการอ่านของตัวเอง ให้มาอ่านแบบในใจดีกว่า

การอ่านทีละคำ

วิธีการอ่านทีละคำ โดยดูไปทุกตัวอักษร มันจะทำให้เราอ่านหนังสือได้ช้ามาก เพราะมามัวสะกดแต่ละคำอยู่ และยิ่งเป็นหนังสือที่มาความยาวมากๆ อย่างเช่นนิยาย หรือว่าหนังสือที่ไม่ใช่การ์ตูน วิธีการอ่านแบบทีละคำจะทำให้รู้สึกว่าเหนือย และจะทำให้เบื่อ ไอยากจะอ่านต่ออีกด้วย ถ้าอยากจะอ่านเร็ว เราต้องอ่านแบบกวาดไป ทั้งบรรทัดเลย และอ่านในใจ โดยที่ไม่ต้องสนใจกับการสะกดของคำแต่ละคำ จะทำให้ราอ่านได้เยอะกว่าเดิม และไม่รู้สึกเหนื่อยด้วย

ไม่มีสมาธิ

เมื่อจิตใจเราอยากจะอ่านหนังสือ ไม่วอกแวก เราก็จะอ่านหนังสือได้นานมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ยิ่งเป็นหนังสือเรียนที่ต้องอ่านสอบ หากเรามีสมาธิในการอ่านแล้ว มันก็ช่วยทำให้เราเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นว่าเดิมด้วย จึงต้องหาสถานที่อ่านที่มันสงบในการอ่าน ไม่ให้มีเสียงต่างๆ เข้ามารบกวนเรา ถ้าเรารู้ว่ายังไม่มีสมาธิในการอ่าน ก็ยังไม่ต้องอ่านดีกว่า เพราะอ่านไปมันก็ไม่เข้าใจหรือไม่รู้เรื่องอยู่ดี

เพียงแค่นี้เราก็สามารถเปลี่ยนวิธีการอ่านของตัวเอง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้แล้ว ใครที่ยังอ่านแบบฝืน หรือว่าอ่านแบบผิดแนวทางอยู่ ก็ควรจะหันมาปรับเปลี่ยนวิธีการในการอ่านใหม่

Reading

เมื่อพูดถึงการอ่าน หลายคนถึงกับต้องส่ายหน้า เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ และไม่สนุกสักนิด ยิ่งหนังสือที่มีตัวหนังสือเต็มไปหมด ไม่มีรูปภาพประกอบ ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่น่าเบื่อเข้าไปใหญ่ หลายคนจึงไม่ชอบอ่าน แต่บางคนก็ชอบในการอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไรก็ตาม ก็มักจะหยิบมาอ่านอยู่ตลอด คนแบบนี้มักจะได้เปรียบคนอื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลข่าวสาร หรือความรู้ในเรื่องต่างๆ

คนส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ หันมาให้ความสำคัญในเรื่องของโซเชียลมีเดียกันมากกว่า เลยมองไม่เห็นประโยชน์ของการอ่านหนังสือเท่าไหร่ วันๆ เอาแต่จ้องโทรศัพท์อย่างเดียว ทำให้ผลกระทบตามมาก็คือ เด็กมีผลการเรียนที่ไม่ดีเท่าที่ควร ลองมาดูเหตุผลดีๆ กันบ้างว่าทำไม เราถึงต้องอ่านหนังสือเยอะๆ อ่านบ่อยๆ มันมีประโยชน์อะไรบ้าง

-อ่านเพื่อให้รู้จักชีวิตมากขึ้น การอ่านหนังสือบางอย่าง อย่างเช่นหนังสือธรรมะ สามารถทำให้เราเข้าใจชีวิตของเรามากขึ้น ว่าเราเกิดมาทำไม เพื่ออะไร และยังสามารถนำข้อคิดต่างๆ ที่อยู่ในหนังสือ เอามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย แล้วเราก็จะอยู่อย่างมีควาวมสุข จะเข้าใจชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม

-อ่านเพื่อให้เข้าใจคนอื่น มนุษย์ถือว่าเป็นสัตว์สังคม ที่เราจะต้องอยู่ร่วมกันกับคนหมู่มาก และเมื่อคนมารวมกันเยอะ มันก็ย่อมจะมีปัญหาตามมาเหมือนกัน การอ่านหนังสืออย่างเช่นแนวจิตวิทยาหรือการเข้าสังคม มันสามารถช่วยให้เราเข้าใจคนอื่นในสังคมได้มากขึ้น และเข้าใจว่าทำไมคนต้องเป้นแบบนั้น เป็นแบบนี้ และเมื่อเราเข้าใจสังคม เข้าใจคนมากขึ้น เราก็จะอยู่ในสังคมนั้นได้อย่างมีความสุข จะได้ไม่ต้องมานั่งคิดว่า ทำไมคนนั้นถึงเป็นแบบนั้น ทำไมคนนี้ถึงทำแบบนี้

-อ่านเพื่อรู้ เรื่องอะไรก็ตาม ที่เราไม่ความรู้ หรือว่าไม่เข้าใจ เราก็สามารถหาได้จากการอ่านหนังสือ อย่างเช่นอยากจะรู้วิธีการทำขนม อยากจะรู้วิธีการทำเกษตร เราก็สามารถหาได้จากหนังสือทั้งนั้น คนที่อยากจะทำอะไรก็ทำเลย โดยที่ไม่หาข้อมูล หรือว่าศึกษาให้ดีเสียก่อน มันก็เสี่ยงเหมือนกัน ที่จะเกิดความผิดพลาด และถ้าเป็นอะไรที่มันต้องเสียเงิน หรือว่าต้องลงทุน ก็ยิ่งเสี่ยงที่จะขาดทุนด้วย

-อ่านเพื่อให้เป็นคนที่ดีกว่าเดิม หนังสือบางเล่น ถ้าเราเลือกอ่านให้ดี มันก็สามารถทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นได้ อย่างเช่นหนังสือพัฒนาตัวเอง หรือว่าฮาวทูต่างๆ พวกนี้เมื่อเราอ่านแล้ว มันสามารถที่จะทำให้ความคิดความอ่าน และการกระทำของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ ดีกว่าการรอให้ใครมานั่งสอน นั่งว่าอย่างเดียว และคงไม่มีใครชอบการตักเตือนให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ด้วยการถูกด่าแน่ ทางที่ดีเราหันมาพัฒนาตัวเอง ด้วยการอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองจะดีกว่า

คนที่ไม่ชอบในการอ่านหนังสือ ก็ลองหันมาฝึกดูใหม่ดีกว่า ลองหยิบหนังสืออะไรก็ได้ ที่ไม่จำเป็นจะต้องมีเนื้อหาที่หรูหรา เป็นหนังสือธรรมดาก็ได้ ถือว่าเป็นการฝึกการอ่านของเราไปก่อน และเมื่อเราชอบในการอ่านหนังสือแล้ว ก็ค่อยปรับเปลี่ยนหนังสือที่มีเนื้อหาซับซ้อนขึ้น

Reading

การอ่านหนังสือเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก สำหรับคนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษา คนทำงาน หรือว่าคนแก่ก็ตาม ย่อมมีความสำคัญเหมือนกันทั้งหมด เพราะมันช่วยในเรื่องของการพัฒนาจิตใจ การกระทำของคนเราได้ ถ้าเราเลือกอ่านหนังสือที่มันมีประโยชน์กับเรา บางคนก็อ่านจนติดเป็นนิสัย ว่างไม่ได้เป็นต้องเข้าร้านหนังสือ หรือเข้าห้องสมุดหาหนังสือมาอ่านเลย ซึ่งคนที่ชอบการอ่านแบบนี้ ถือว่าเป็นเรืองที่ดี เพราะมันให้ประโยชน์หลายอย่างมาก

แต่ก็มีบางคนเหมือนกัน ที่ไม่ชอบการอ่าน เพราะมันไม่สนุก ไม่เหมือนกับการเล่นโทรศัพท์ หรือว่าเล่นอินเตอร์เน็ต ไม่มีแรงบันดาลใจในการอ่าน บางทีสาเหตุมันก็อาจจะมาจากเราอ่านผิดวิธีก็ได้ ซึ่งการอ่านที่ผิดแบบ หรืออ่านแบบไม่มีประสิทธิภาพ มันก็เป็นการอ่านที่เปล่าประโยชน์เหมือนกัน เราลองมาดูว่า เราจะอ่านหนังสืออย่างไร ให้มันได้ประโยชน์สูงสุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ให้เสียเวลาในการอ่านของเราไปเปล่าๆ

อ่านออกเสียง

คนที่ต้องการอยากจะอ่านหนังสือให้ได้มากๆ อ่านให้ได้นานๆ วิธีการอ่านที่ดีก็คือ อย่าอ่านออกเสียง เพราะการอ่านออกเสียงนอกจากจะทำให้เราอ่านได้น้อย น่าเบื่อแล้ว มันยังทำให้เราเหนื่อยอีกด้วย คนที่อ่านหนังสือได้ครั้งละนานๆ โดยที่ไม่เหนื่อย หรือว่าไม่เบื่อ เขาจะไม่อ่านหนังสือแบบออกเสียงเลย เพราะมันทำให้อ่านช้าด้วย และบางครั้งก็อาจจะรบกวนคนอื่นด้วย คนที่มักจะอ่านหนังสือแบบออกเสียงอยู่ ก็ลองเปลี่ยนรวิธีการอ่านของตัวเอง ให้มาอ่านแบบในใจดีกว่า

อ่านทีละคำ

วิธีการอ่านทีละคำ โดยดูไปทุกตัวอักษร มันจะทำให้เราอ่านหนังสือได้ช้ามาก เพราะมามัวสะกดแต่ละคำอยู่ และยิ่งเป็นหนังสือที่มาความยาวมากๆ อย่างเช่นนิยาย หรือว่าหนังสือที่ไม่ใช่การ์ตูน วิธีการอ่านแบบทีละคำจะทำให้รู้สึกว่าเหนือย และจะทำให้เบื่อ ไอยากจะอ่านต่ออีกด้วย ถ้าอยากจะอ่านเร็ว เราต้องอ่านแบบกวาดไป ทั้งบรรทัดเลย และอ่านในใจ โดยที่ไม่ต้องสนใจกับการสะกดของคำแต่ละคำ จะทำให้ราอ่านได้เยอะกว่าเดิม และไม่รู้สึกเหนื่อยด้วย

มีสมาธิ

เมื่อจิตใจเราอยากจะอ่านหนังสือ ไม่วอกแวก เราก็จะอ่านหนังสือได้นานมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ยิ่งเป็นหนังสือเรียนที่ต้องอ่านสอบ หากเรามีสมาธิในการอ่านแล้ว มันก็ช่วยทำให้เราเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นว่าเดิมด้วย จึงต้องหาสถานที่อ่านที่มันสงบในการอ่าน ไม่ให้มีเสียงต่างๆ เข้ามารบกวนเรา

ชี้นิ้วไปด้วย

บางคนมักจะติดนิสัยในการอ่าน แล้วใช้นิ้วชี้ไปตาม วิธีการนี้ทำให้อ่านได้ช้า และไม่มีประสิทธิภาพ เพราะมันน่าเบื่อ คนที่อ่านหนังสือเร็วๆ จึงมักจะอ่านแบบใช้สายตาอย่าเดียว เพราะมันได้ผลมากกว่า ไม่เหนื่อยด้วย

คนที่รู้ว่าตัวเองอ่านหนังสือผิดวิธี ก็อยากจะให้เปลี่ยนวิธีการอ่านเสียใหม่ มาอ่านให้มันถูกต้อง และเมื่อนั้นการอ่านของเราจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไร เราก็สามารถเข้าใจเนื้อหาในหนังสือทั้งหมด เพราะเรารู้หลักของการอ่านแล้ว